เมื่อใจสั่นไหว... เหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลกระทบกับเราอย่างไร?
(Coping With Traumatic Events Part 1)
เราตอบสนองต่อเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างไร?
เหตุการณ์สะเทือนใจ (Traumatic event) คือ ประสบการณ์ที่น่ากลัว น่าตกใจ หรือเป็นอันตรายกับตัวเรา ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจ หรืออาร มณ์ ความรู้สึกนึกคิด และร่างกายของเรา
เหตุการณ์สะเทือนใจอาจเป็นไปได้หลายอย่าง
ยกตัวอย่างเช่น
1. ภัยธรรมชาติ
(เช่น พายุเฮอริเคน แผ่นดินไหว และน้ำท่วม)
2. เจอความรุนแรง
(เช่น ก ารทำร้าย การทารุณกรรม การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และเหตุกราดยิง)
3. อุบัติเหตุทางรถยนต์ หรืออุบัติเหตุอื่นๆ
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะ “รู้สึกกลัว” ในระหว่างที่มีสถานการณ์เกิดขึ้น และภายหลังสถานการณ์จบลง และความกลัวนี้อาจกระทบกระเทือนจิตใจมากกว่าที่เราคิดไว้ เนื่องจาก “ความกลัว” เป็นหนึ่งในการตอบสนองของร่างกายในโหมด "สู้หรือหนี" (Fight-or-flight) ที่ช่วยให้เราหลีกเลี่ยงหรือตอบสนองต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทันเวลา ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่แตกต่างกันไป เมื่อเจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนทางใจ ซึ่งรวมถึงอาการดังต่อไปนี้
รู้สึกวิตกกังวล เศร้า หรือโกรธ
มีปัญหาเกี่ยวกับสมาธิและนอนหลับ
คิดวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้น แต่เมื่อไหร่ที่เริ่มไม่ใช่... ?
ส่วนมากแล้ว เราจะฟื้นตัวได้เองจากอาการเหล่านี้ตามธรรมชาติ และอาการหรือปฏิกิริยาที่เราตอบสนองต่อความกลัวจะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าเราพบว่าตัวเองยังมีอาการอยู่ แม้ว่าเหตุการณ์สะเทือนใจจะจบลง ไปสักพักใหญ่แล้วก็ตาม อาจจะเข้าข่ายว่าเราเป็น โรคเครียดภายหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (Post-traumatic Stress Disorder; PTSD) หรือ มีอาการของภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังพบเหตุการณ์สะเทือนใจ
สัญญาณอาการทางใจ
การขอคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจะเป็นสิ่งจำเป็น หากอาการเหล่านี้ของเราไม่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หรือมันเริ่มรบกวนชีวิตประจำวันของเรา สัญญาณบางอย่างที่บอกว่าเราอาจต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่:
รู้สึกวิตกกังวล เศร้า หรือหวาดกลัวมาก
ร้องไห้บ่อย
มีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการคิดอย่างชัดเจน
มีความคิดที่น่ากลัวหรือหวนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์เดิม (flashbacks) รื้อฟื้นเหตุการณ์นั้นขึ้นมาใหม่ (จากความคิดในหัวของเรา)
รู้สึกโกรธ ขุ่นเคือง หรือฉุนเฉียว
มีฝันร้ายหรือนอนหลับยาก
หลีกเลี่ยงสถานที่หรือผู้คนที่ทำให้นึกถึงความทรงจำ และการตอบสนองอะไรบางอย่างที่รบกวนจิตใจ
ปลีกตัวจากครอบครัวและเพื่อนฝูง
สัญญาณอาการทางร่างกาย
และอาการทางร่างกาย ที่บ่งบอกว่าเรากำลังต่อสู้กับบาดแผลทางใจอยู่ ซึ่งหมายความแบบเดียวกัน คือ เรากำลังต้องการความช่วยเหลือ อาการทางร่างกายได้แก่:
อาการปวดหัว
อาการปวดท้องและปัญหาในระบบทางเดินอาหาร
มีปัญหาในการนอนหลับหรือหลับไม่สนิท
หัวใจเต้นเร็วและเหงื่อออก
ตกใจง่ายและสะดุ้งง่าย
สำหรับผู้ที่เคยมีประวัติส่วนตัวหรือคนในครอบครัวเป็นโรคทางจิตเวชหรือเคยใช้สารเสพติด ผู้ที่เคยเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจมาก่อน ผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาความเครียด หรือได้รับบาดแผลทางร่างกายหรือจิตใจมาอย่างต่อเนื่อง (เช่น การถูกทารุณกรรม) หรือผู้ที่ขาดการสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัว อาจมีแนวโน้มที่จะมีอาการ PTSD อย่างรุนแรง กว่าคนอื่นๆ และต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
นอกจากนี้ผู้ที่เจอกับเหตุการณ์สะเทือนใจ อาจมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น โรคแพนิค (Panic disorder), โรคซึมเศร้า (Depression), การใช้สารเสพติด ไปจนถึง…มีความคิดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ฯลฯ ดังนั้นการบำบัดรักษาภาวะต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้เราฟื้นตัวได้ดีมากยิ่งขึ้นหลังจากเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนใจค่ะ
แปลและดัดแปลงจากบทความที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ National Institute of Mental Health
อ้างอิง:
ขอบคุณภาพประกอบจาก:
Bankokbiznews (กรุงเทพธุรกิจ)
Khaosod Online (ข่าวสดออนไลน์)
MGR Online (ผู้จัดการออนไลน์)
Nation TV (เนชั่นทีวีออนไลน์)
Thairath Online (ไทยรัฐออนไลน์)