top of page

บ้านไม่ใช่ Safe Zone … เมื่อ Toxic Relationship ในครอบครัว ทำให้คนไทยไม่อยากกลับบ้านช่วงปีใหม่ (Part 1)


เทศกาลปีใหม่ซึ่งควรเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเฉลิมฉลอง หลายคนรอคอยที่จะได้กลับบ้านไปเจอกับครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก แต่สำหรับบางคน "บ้าน" กลับไม่ใช่สถานที่ที่อบอุ่นปลอดภัย เพราะต้องเผชิญกับ Toxic Relationship หรือความสัมพันธ์ที่เป็นพิษในครอบครัว ความสัมพันธ์ลบ ๆ เหล่านี้บั่นทอนความรู้สึกปลอดภัย อบอุ่นใจ และเปลี่ยนช่วงเวลาแห่งความสุขให้กลายเป็นความอึดอัด กดดัน และบั่นทอนสุขภาพจิต


เช่นเดียวกับที่ แพร-อสมาภรณ์ สมัครพันธ์ (นักแสดง นักตัดต่อจากภาพยนตร์ Blue Again) ให้สัมภาษณ์ว่า “สมมติว่าเรานั่งอยู่กับพ่อเรานาน ๆ เราเถียงกันตลอดแน่นอน เพราะพ่อกับเราเป็นคนที่แตกต่างกันในเชิงทัศนคติมาก … ก็เลยรู้สึกว่า ไม่เอา คือใครอยากกลับก็กลับ ใครไม่อยากกลับก็ไม่ต้อง” ซึ่งสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด จนนำไปสู่การหลีกเลี่ยงกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ (อ้างอิง: Thairath Plus)



Toxic Relationship ในครอบครัว: บาดแผลที่มองไม่เห็นแต่ส่งผลกระทบรุนแรง


Toxic Relationship ในครอบครัว คือรูปแบบความสัมพันธ์ที่สร้างความเสียหายทางด้านจิตใจ ซึ่งสามารถแสดงออกในหลายรูปแบบ เช่น การวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง การควบคุม การขาดความเห็นอกเห็นใจ การไม่เคารพขอบเขตพื้นที่ส่วนตัว ความรู้สึก หรือความต้องการ การเพิกเฉย การใช้ความรุนแรง (ทางคำพูด ทางกายภาพ หรือทางอารมณ์) การสร้างความรู้สึกผิดและละอาย หรือ Gaslighting ซึ่งล้วนส่งผลกระทบทางลบต่อสุขภาพจิตของสมาชิกในครอบครัว

(อ้างอิง: Anchorage Daily News, Forth et al., 2021gbvlearningnetwork.ca, Mindbodygreen.com, Psychology Today, Sweet, 2019Rakovec-Felser, 2014WonderMind.com)


การจะบอกได้ว่าสมาชิกคนใดในครอบครัวที่เป็น Toxic Person อาจไม่ใช่เรื่องง่าย หากพฤติกรรมที่เป็นพิษบางอย่างกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในครอบครัว

Mission On จึงอยากชวนคุณมาทบทวนว่า “หากลองมองย้อนดูในวัยเด็ก หรือช่วงเวลาปัจจุบันของเรา คุณเห็นสัญญาณของ Toxic Relationship จากสมาชิกในครอบครัวของคุณ และมีแนวโน้มที่จะเกิดความรู้สึกไม่ดีต่าง ๆ ตาม Checklist ด้านล่างหรือไม่?”


ไม่เคารพขอบเขตของเรา

  • ละเมิดขอบเขตพื้นที่ส่วนตัว หรือสิทธิ์ของคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า

  • ไม่ใส่ใจความรู้สึก ความต้องการ หรือเคารพสิทธิ์ของคุณ

  • รู้สึกว่าไม่ได้รับการเคารพให้เกียรติ หรือความต้องการของคุณไม่ได้รับการตอบสนองอยู่บ่อยครั้ง

  • เป็นคนให้มากกว่าได้รับ ซึ่งทำให้คุณรู้สึกด้อยค่าและหมดแรง


ขาดความเห็นอกเห็นใจ

  • ปฏิเสธที่จะประนีประนอมกับคุณ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไปจนถึงเรื่องสำคัญ ๆ

  • เรียกร้องให้คุณทำในสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับตัวเอง

  • รู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุน ไม่ได้รับความเข้าใจ โดนดูถูก หรือถูกโจมตี


มีแต่การวิพากย์วิจารณ์และความคิดลบ ๆ อยู่ตลอดเวลา

  • ใช้คำพูดหรือปฏิบัติต่อคุณด้วยความเกรี้ยวกราด ชอบตำหนิหรือวิพากย์วิจารณ์

  • มีอารมณ์และพฤติกรรมที่แปรปรวน และมีความโกรธที่รุนแรง

  • รู้สึกว่านับถือตัวเองน้อยลงทุกที

  • รู้สึกหดหู่ โกรธ หรือเหนื่อยล้า หลังจากได้พูดคุยหรือใช้เวลากับเขา



ทำให้เรารู้สึกผิด อับอาย เพื่อควบคุมการกระทำและการตัดสินใจของเรา

  • เขาต้องเป็นคนถูกเสมอ คุณเป็นคนผิดเสมอ

  • โกหกและ/หรือทำให้คุณรู้สึกผิดเพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ

  • รู้สึกว่ากฎเกณฑ์ใด ๆ เอามาบังคับใช้กับเขาไม่ได้

  • ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของเขา

  • โทษคนอื่น เมื่อตัวเขาเป็นคนทำผิดพลาด

  • แทบจะไม่เคยพูดคำว่าขอโทษ

  • มักถูกตำหนิอยู่เสมอ เขามักเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ที่คุณคิดว่าเขาทำผิด ให้กลายเป็นความผิดของคุณ

  • คุณใช้เวลาและความเข็มแข็งอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้เขารู้สึกดี


สร้างดราม่า สร้างความขัดแย้งให้เราและคนรอบตัว

  • บงการเพื่อควบคุมหรือเอาเปรียบคุณและคนอื่น ๆ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ

  • เมื่ออยู่ด้วยกัน แต่ละฝ่ายดึงด้านที่แย่ที่สุดของกันและกันออกมา เช่น เพื่อนคนหนึ่งของคุณมักชอบแข่งขันหรือชิงดีชิงเด่น แบบมีเจตนามุ่งร้ายกับคุณเสมอ (Spite-based competitive) และคุณไม่ได้รู้สึกดีหรือสนุกไปกับสิ่งนี้เลย

  • คุณไม่สามารถดึงด้านดีของตัวเองออกมาได้ เมื่อต้องใช้เวลาอยู่กับเขา เช่น เขาทำให้คุณเป็นคนขี้นินทา หรือคุณรู้สึกว่าตัวเองมีพฤติกรรมแย่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน เมื่ออยู่ใกล้กับคนนี้

  • รู้สึกว่าต้องระมัดระวังตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าคน ๆ นี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหรือเหยื่อให้เขาเกลียดชัง

อ้างอิง: WebMD

อ้างอิง: Verywellmind


ผลกระทบด้านลบจาก Toxic Relationship

  • สร้างบาดแผลและความทุกข์ทางใจ เช่น มีความเครียดเรื้อรัง ความวิตกกังวล ซึมเศร้า หวาดกลัว จากการต้องเผชิญสภาวะที่เป็นพิษจากคนใกล้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะยอมจำนน (Helplessness) หรือการรู้สึกว่าตัวเองหมดหนทางที่ใครจะช่วยเหลือได้แล้ว เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้มเหลวไปหมด หรือรู้สึกถึงภาวะสิ้นหวัง (Hopelessness) คือมีความคิดเชิงลบที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่มีวันดีขึ้นกว่านี้ได้แล้ว และจะกลายเป็นปัญหาทางสุขภาพจิตใจในที่สุด

  • ความนับถือตนเองต่ำ การถูกวิพากษ์วิจารณ์ ดูถูก เพิกเฉย หรือการถูกควบคุมบงการ เป็นสิ่งที่กัดกร่อนทำลายความรู้สึกนับถือตัวเองของคน ๆ หนึ่ง เพราะทำให้รู้สึกสงสัยและไม่มั่นใจในความสามารถหรือคุณค่าของตัวเอง จนด้อยค่าหรือประเมินคุณค่าตัวเองต่ำเกิดความเป็นจริง

  • ปัญหาในการสร้างสัมพันธ์ รูปแบบความสัมพันธ์ที่ไม่ดีในครอบครัว อาจสร้างภาพจำ จนทำให้เรานำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปใช้กับความสัมพันธ์รูปแบบอื่น ๆ ด้วย เช่น มีพฤติกรรมก้าวร้าวกับเพื่อน หรือปฏิเสธหลีกเลี่ยงผู้อื่น มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม มีความไม่มั่นคงทางอารมณ์ต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อการสร้างสัมพันธ์ในอนาคต

  • ปัญหาสุขภาพกาย: ความเครียดเรื้อรังที่เกิดขึ้นจากการเผชิญความสัมพันธ์เป็นพิษ ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย จนอาจทำให้มีอาการเหล่านี้ เช่น ปวดหัว เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน

(อ้างอิง: Alm et al., 2020, Doctorsexplain.net, Garciawindsor.com, Jetir.org, Mentesabiertaspsicologia.com, Primebehavioralhealth.com, Solhapp.com, Therapygroupdc.com, Zhao, 2021)


 



รู้จักกับนักจิตวิทยาการปรึกษาและนักจิตบำบัด



นัดพบนักจิตวิทยาการปรึกษาและนักจิตบำบัด


bottom of page