top of page

ทำไมการพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตจึงสำคัญ

(Talk It Out Part 1)


การพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพจิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของเรากับผู้อื่น แม้ว่าในตอนแรกเราอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากหรืออึดอัด แต่หากเรากำลังเผชิญกับความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ความเครียด หรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ การได้เปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้กับคนที่เราไว้ใจ สามารถสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างไปได้ เช่น


  • รู้สึกดีมากขึ้น ภายหลังได้พูดคุยแบบเปิดใจ หรือระบายความทุกข์ใจ

  • ลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และรู้สึกเชื่อมโยงกับคนที่มีประสบการณ์คล้ายกัน

  • เปิดโอกาสให้ตัวเอง ได้รับ Feed back ด้วยมุมมองแตกต่าง (มีทางเลือก หรือวิธีรับมือกับปัญหาหลายๆ ทางให้เราได้เลือก)

  • ช่วยให้เราได้รับการช่วยเหลือ การสนับสนุนที่ต้องการเพิ่มเติม



แม้ว่าปัญหาสุขภาพจิตกำลังกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่เปิดเผยและเข้าถึงง่ายมากขึ้นในยุคนี้ แต่หลายคนยังคงพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุย ด้วยปัจจัยทางวัฒนธรรม ความเชื่อส่วนตัว หรือความกลัวที่จะถูกตัดสินจากคนอื่น อย่างไรก็ตามการพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญ และมันอาจช่วยปูทางให้เราสามารถทำลายอคติผิดๆ และส่งเสริมให้คนอื่นกล้าทำแบบเดียวกับเราได้ด้วย



เราอาจมี “ความเชื่อผิดๆ” เกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องสุขภาพจิต


ความเชื่อผิดๆ ที่ใครก็มีได้ (Common Myth)


หลายๆ คนอาจมีความคิดและความเชื่อผิดๆ ที่มองว่า “เราไม่ควร หรือ ไม่อยากพูดถึง เรื่องปัญหาสุขภาพจิตให้คนอื่นฟัง” จึงเลือกที่จะเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง ทำให้ปัญหาจิตใจ ถูกละเลย และ ไม่ได้รับการแก้ไข ได้อย่างทันเวลา มีความเชื่อผิดๆ อะไรบ้างที่ทำให้เราไม่กล้าสื่อสารออกไป มาดูกันค่ะ



  1. ต้องการคำตอบที่แน่นอน

    เวลาที่เราพูดคุยหรือปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตใจกับใครสักคน เรามัก คาดหวัง ว่าจะได้ “คำตอบ” หรือ “วิธีการแก้ปัญหา” สำหรับทุกอย่าง


    แต่อย่าลืมว่า! การพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ทางอารมณ์ การแสดงความรู้สึก หรือแม้กระทั่งการค้นหาความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้สามารถแก้ไขทุกอย่างได้ในบทสนทนาเพียงครั้งเดียว




  2. กลัวคนอื่นไม่เข้าใจ

    หลายๆ คนกลัวการพูดถึงปัญหาสุขภาพจิตใจของตัวเอง เพราะกลัวการถูกตัดสิน ถูกตีตรา (Stigma) หรือถูกคนอื่นมองในแง่ลบ เช่น ถูกมองว่า “อ่อนแอ” หรือ “ผิดปกติ”

    ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเราได้อย่างถ่องแท้ แต่การได้ แชร์ประสบการณ์ ให้คนอื่นฟัง สามารถช่วยลดอคติ การถูกตีตรา และช่วยให้คนอื่น “เข้าใจ เห็นอกเห็นใจ” เราได้ดีมากขึ้น


  3. มีแต่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะช่วยเราได้

    แม้ว่าการได้รับคำปรึกษา การสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตจะมีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับบางคน แต่การมีคนรอบข้าง เช่น เพื่อน คนรัก ครอบครัว หรืออื่นๆ ก็สามารถมอบสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือการรับฟัง ความเข้าใจ กำลังใจ และความช่วยเหลือที่เราสามารถเข้าถึงได้ทุกเมื่อที่ต้องการ


การพูดคุยเรื่องปัญหาสุขภาพจิตใจ เป็นเรื่องที่เราทำได้ และควรทำ ลองเปิดใจพูดคุยแล้วหรือยัง?


แปลและดัดแปลงจากบทความที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ Changemh.org และ Mcleanhospital.org


อ้างอิง:

[1] https://changemh.org/resources/talking-about-your-mental-health/

[2] https://www.mcleanhospital.org/essential/stigma 


 



รู้จักกับนักจิตวิทยาการปรึกษาและนักจิตบำบัด



นัดพบนักจิตวิทยาการปรึกษาและนักจิตบำบัด


bottom of page