พลังของคำพูดเยียวยาใจ “เราเข้าใจที่เธอรู้สึก” ในโลกที่ยังมีอคติต่อชาว LGBTQIA+
Microaffirmation
สิ่งเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนทุกวันของชาว LGBTQIA+ ให้ดีขึ้น
"Microaffirmation" หรือ การยืนยันตัวตนเชิงบวก พูดง่ายๆ คือ การกระทำหรือคำพูดเล็กๆ น้อยๆ ที่ตรงกันข้ามกับ Microaggression
เป็นการแสดงออกที่ทำให้คนๆ หนึ่งรู้สึกว่า “ตัวตนของเขาเป็นที่ยอมรับ, ถูกมองเห็น, และมีคุณค่า” (Yordlorchai, 2023)
อ่านเรื่อง Microaggression หรือ “คำพูดและการกระทำ” ที่ทำร้ายจิตใจชาว LGBTQIA+ ได้ในบทความก่อนหน้าของ Mission On [Microaggression 1, Microaggression 2]
ความเครียดที่ฝังรากลึกจากการถูกมอง "เป็นคนนอก"
เพราะสิ่งที่ชาว LGBTQIA+ หลายๆ คนต้องเจอ คือ ความเครียดจากอคติทางสังคม
(Stigma-related Stressor; Yordlorchai, 2023)
"ความเครียดจากอคติทางสังคม" พูดง่ายๆ ก็คือ ความเครียดทั้งหมดที่มีต้นตอมาจากการที่สังคมไม่ยอมรับ หรือถูกตีตราตัวตน ซึ่งไม่ใช่แค่ Microaggression แต่รวมถึง “ความกลัว” ที่จะถูกเลือกปฏิบัติ, กลัวที่จะถูกปฏิเสธจากครอบครัวและสังคมรอบข้าง, หรือกลัวที่จะไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ฯลฯ
อ่านเรื่อง “การถูกเลือกปฏิบัติ” (Discrimination) ได้ในบทความก่อนหน้าของ Mission On [Microaggression 2]
Microaffirmation คือยาใจสำหรับชาว LGBTQIA+
ไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม คนตรงเพศ (Cisgender) หรือมีรสนิยมที่ชอบเพศตรงข้าม (Straight/Heterosexual) หรือแม้แต่ชาว LGBTQIA+ ด้วยกันเอง
การใช้ Microaffirmation ทำหน้าที่เป็นเหมือน "ยาใจ" ที่ช่วยเยียวยาบาดแผลและสร้างเกราะป้องกันทางใจให้แก่ชาว LGBTQIA+ (Yordlorchai, 2023)
เติมกำลังใจให้กันด้วย Microaffirmation
เพราะ Microaffirmation คือสิ่งเล็กๆ ที่บอกชาว LGBTQIA+ ว่า “เราเข้าใจที่เธอรู้สึกนะ”
ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูดเล็กๆ น้อยๆ หรือสัญญานอย่าง เช่น การแสดงออกทางสีหน้า สายตา ภาษากาย และน้ำเสียง ฯลฯ (Social cues; Socialskillscenter.com, Yordlorchai, 2023) เช่น การใช้คำพูดที่ให้เกียรติ การแสดงออกด้วยท่าทีให้การสนับสนุน หรือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้การยอ มรับ
สร้างการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำได้ในทุกวัน
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะกลายมาเป็นทรัพยากรทางใจที่สำคัญแก่ชาว LGBTQIA+ เพื่อให้สามารถรับมือกับความเครียดจากอคติที่มาจากสังคมรอบข้างได้
(Yordlorchai, 2023)
ตัวอย่าง Microaffirmation ที่ใครๆ ก็ทำได้
(Rpharms.com)
1. อย่าทึกทักสรรพนาม - ให้ถามก่อน:
“อยากให้เราเรียกสรรพนามว่าอะไร?” (แสดงความใส่ใจและเคารพในตัวตน) หรือเราอาจเริ่มจากการแชร์สรรพนามของตัวเองก่อน เพื่อชวนให้คนอื่นรู้สึกสบายใจที่จะแชร์ของตัวเอง เช่น "สวัสดีค่ะ/ครับ เราชื่อ... เรียกเราว่าแบบนี้ก็ได้/เรียกสรรพนามเราแบบนี้... ได้นะ"
2. ใช้ภาษากลางๆ:
ควรใช้คำว่า “คนรัก” หรือ “แฟน” แทนที่จะทึกทักไปเองว่าเป็น “สามี/ภรรยา” (ในกรณีที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้เอง)
3. เป็นพันธมิตรที่ดีให้ชาว LGBTQIA+:
ชื่นชมการแสดงออกถึงตัวตนของเขา เช่น “ชุดนี้สวย/ดูดีจัง เข้ากับคุณมากๆ” เมื่อพบเจอ Microaggression ช่วยพูดแทรกอย่างสุภาพ เช่น “จริงๆ แล้ว เขาใช้สรรพนามนี้ค่ะ/ครับ” เพื่อช่วยแก ้ไขความเข้าใจผิด
4. ไม่ควรเปิดเผยตัวตนของใคร:
ให้เกียรติและปล่อยให้แต่ละคนได้เลือกที่จะแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองใน "เวลา" และ "พื้นที่" ที่สบายใจ การที่อีกฝ่ายกล้าเปิดเผยตัวตนกับเรา ไม่ได้หมายความว่าเขาพร้อมที่จะเปิดเผยตัวตนกับทุกคน หรืออนุญาตให้เรานำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นๆ เมื่อเพื่อนเปิดเผยตัวตนกับเรา เราอาจตอบกลับว่า “ขอบคุณนะที่ไว้ใจและเล่าให้เราฟัง” แต่ไม่นำเรื่องนี้ไปเล่าต่อที่อื่น หากอีกฝ่ายไม่ได้อนุญาต
ติดตามอ่านเรื่อง Microaffirmation และ Microaggression ในรูปแบบอื่นๆ
ได้ในโพสต์ถัดไปของ Mission On
บทความนี้แปลและดัดแปลงเนื้อหาบางส่วนมาจาก
เว็บไซต์ Rpharms.com (Royal Pharmaceutical Society of Great Britain) บทความเรื่อง “LGBTQIA+ related Microaggressions”
วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก เขียนโดย Rapinpat Yordlorchai (2023)
อ้างอิง:
[1] Rpharms.com
[2] Yodlorchai, Rapinpat, "Sexual orientation microaggressions and mental health concerns: a conditional process modeling of protective effects of microaffirmations" (2023). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 10382. https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/10382